ฮิตแมนเบรท ฮาร์ท-ในค่ำคืนที่ประสบความสำเร็จเป็นราชันย์

ฮิตแมนเบรท ฮาร์ท นักมวยปล้ำมากฝีมือ ในค่ำคืนที่ประสบความสำเร็จที่ได้เป็นราชันย์

                นับว่าเป็นนักมวยปล้ำมากฝีมือที่ประสบความสำเร็จอีกคน สำหรับ ฮิตแมนเบรท ฮาร์ท ที่ครั้งหนึ่งเคยคว้าแชมป์คิงออฟเดอะริงได้มากถึง 2 สมัยซ้อนในช่วงปี 1991 และ 1993 โดยในปีหลังนั้นขาได้ขึ้นปล้ำในรายการที่ชื่อเดียวกันพร้อมกับต้องเจอนักมวยปล้ำมากฝีมือทั้งสามคน รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวยาวนับสองปีระหว่างเขากับเจอร์รี่ ลอร์เลอร์ที่เป็นเจ้าของฉายาราชันย์อีกคนหนึ่ง ฮิตแมนเบรท ฮาร์ท ที่พวกเขาต้องสู้กันในกติกาผู้แพ้ต้องจูบเท้า                 ในแมตช์แรกที่ฮิตแมนเบรท ฮาร์ทจะต้องขึ้นปล้ำในทัวร์นาเมนต์ 15 คนที่เขาบังเอิญเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายมาได้เลยก็คือการเจอกับเรเซอร์ รามอนที่เป็นคู่เปิดของรายการ โดยในระหว่างแมตช์นั้นเขาจะโดนเรเซอร์เล่นงานที่มืออย่างหนักและใช้ความได้เปรียบของร่างกาย แต่ทว่ายังเป็นทางฮาร์ทที่เอาชนะไป ก่อนที่รอบต่อมาเบรท ฮาร์ทจะได้เจอกับมิสเตอร์เพอร์เฟกต์ ซึ่งก็เป็นทางอดีตแชมป์รายการนี้เอาชนะไปได้อีกคน                 ส่วนคู่เอกของรายการนั้น ก็จะเป็นทางฮิตแมนที่จะได้มาเจอกับแบมแบม บิกาโลว์เพื่อหาผู้ชนะรายการคิงออฟเดอะริงประจำปี 1993 ก่อนที่จะเป็นทางฮาร์ทที่จัดการบิกาโลว์ไปได้ด้วยท่าวิคตอรี่โรล แต่ทว่าหลังจากจบแมตช์แล้ว ทางเจอร์รี่ ลอร์เลอร์ที่ใช้บทบาทของราชันย์ในสังเวียนนี้ก็ออกมาหาเรื่องกับเบรทและทำร้ายร่างกายจนผู้ชนะของค่ำคืนได้แต่นอนสลบปิดโชว์ไปในที่สุด                 หลังจากที่ฮิตแมนกลายเป็นแชมป์คิงออฟเดอะริงสองสมัยแล้ว เขาก็ไปมีเรื่องราวกับเจอร์รี่เดอะคิงลอร์เลอร์ทันที โดนทั้งสองได้เจอกันในรายการซัมเมอร์สแลมและลากยากไปจนถึงปี 1995 ที่พวกเขาต้องสู้กันในกติกาผู้แพ้ต้องจูบเท้า แล้วก็เป็นทางฮาร์ทที่เอาชนะไปได้นั่นเอง ฝากกดติดตาม การแข่งขันกีฬาข่าวสารกีฬาอื่น ๆ นักมวยปล้ำ นิค อัลดิส กับการปฏิเสธสัญญาย้ายเข้าร่วมสู่สมาคมเออีดับเบิ้ลยู

Continue Reading
เดอะร็อค

เดอะร็อค คงจะเป็นตำนานของสังเวียนไปอีกแสนนาน กับการถูกขัดขาตั้งแต่ช่วงเริ่มเข้าวงการ

                ในวงการมวยปล้ำนั้นชื่อของ เดอะร็อค คงจะเป็นตำนานของสังเวียนไปอีกแสนนาน ไม่ว่าจะเป็นการประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์โลกหลังเปิดตัวมาได้ไม่กี่ปีเท่านั้น โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยผ่านรายการกับเบรท ฮาร์ทว่าในช่วงเวลานั้นมีนักมวยปล้ำหลายคนในสมาคมไม่พอใจที่เขากำลังจะก้าวไปสู่จุดสูงสุดในปี 1998 แต่ทว่าได้ความใจดีของดิ อันเดอร์เทคเกอร์นั่นเองที่ช่วยเหลือเขาจนเป็นที่ยอมรับในที่สุด เดอะร็อค ที่กำลังมุ่งหน้าไปในทางการเป็นนักแสดง                 ย้อนกลับไปในปี 1996 นั้นทางเดอะร็อคได้เปิดตัวในสมาคมของวินซ์ แมคแมนด้วยชื่อว่าร็อคกี้ มาเวียร์ แต่ทว่าบทบาทธรรมะของเขานั้นไม่ได้เป็นที่ยอมรับของแฟนๆ จนต้องพลิกบทบาทมาเป็นนักมวยปล้ำจอมหยิ่งที่รู้จักกันดีนั่นเอง โดยความสำเร็จแรกของเจ้าตัวนั้นก็คือการเป็นแชมป์อินเตอร์คอนทิเนนทัลนั่นเอง รวมทั้งการสร้างชื่อมาจากแมตช์ที่เจอกับเคน แชมร็อคและทริปเปิ้ลเอชอีกด้วย                 หลังจากที่ความนิยมของเดอะร็อคได้เพิ่มขึ้นนั่นเอง เขาก็มีโอกาสคว้าแชมป์โลกครั้งแรกในรายการเซอร์ไวเวอร์ ซีรียส์ปี 1998 โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยว่ามีหลายคนในวงการขณะนั้นที่พยายามจะขัดขาเขาไม่ให้ประสบความสำเร็จได้ จนกระทั่งทางอันเดอร์เทคเกอร์ที่เป็นนักมวยปล้ำในวงการมานานได้คอยช่วยเหลือไม่ให้เขาต้องกังวลเพราะเทคเกอร์เชื่อมั่นว่านักมวยปล้ำคนนี้จะมีอนาคตที่สดใสในสังเวียนนี้นั่นเอง                 ด้วยเหตุนี้เองทำให้ทางเดอะร็อคได้รอดพ้นมาจากการใช้อิทธิพลหลังฉากของเหล่านักมวยปล้ำตัวแสบในขณะนั้นได้ พร้อมกับมีโอกาสคว้าแชมป์โลกมาได้อีก 10 สมัยตลอดอาชีพของเขา ก่อนที่ต่อมาเขาจะประสบความสำเร็จในการเป็นนักแสดงอย่างที่เห็นในปัจจุบัน กดติดตามเว็บไซต์ การแข่งขันกีฬาข่าวสารกีฬาที่น่าสนใจ แมตช์ นรกในกรงเหล็ก ที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมมากที่สุด

Continue Reading
ดิ อันเดอร์เทคเกอร์

เกรฟยาร์ดด็อก การจับคู่ของสองพี่ใหญ่ในวงการมวยปล้ำ ดิ อันเดอร์เทคเกอร์ กับโรมัน

                ว่ากันว่าแต่ละยุคสมัยนั้น ในวงการมวยปล้ำก็ต้องมีพี่ใหญ่ประจำห้องแต่งตัวอยู่เสมอ โดยหนึ่งในนักมวยปล้ำที่เคยได้รับตำแหน่งนั้นก็คือ ดิ อันเดอร์เทคเกอร์ นั่นเอง เพราะเขาคือหนึ่งในตำนานของวงการนั่นเอง ก่อนที่ต่อมาในยุคปัจจุบันนั้นหน้าที่ก็ได้ตกไปอยู่ที่โรมัน เรนส์นักมวยปล้ำที่มีโอกาสได้เป็นคู่เอกเรสเซิลมาเนียหลายครั้ง จนกระทั่งในปี 2019 นั้นทั้งสองก็มีโอกาสจับคู่กันเป็นครั้งแรก หลังจากที่เคยเจอกันเองมาแล้วในปี 2017 นั่นเอง ดิ อันเดอร์เทคเกอร์ ต้องเจอกับโรมัน เรนส์ ในรายการเรสเซิลมาเนียครั้งที่ 33                 ในแมตช์ที่ทางดิ อันเดอร์เทคเกอร์ต้องเจอกับโรมัน เรนส์นั้นเกิดขึ้นในรายการเรสเซิลมาเนียครั้งที่ 33 โดยมีศักดิ์ศรีของความเป็นพี่ใหญ่ของเวทีแห่งนี้เป็นตัวดำเนินเรื่องราว จนกระทั่งสุดท้ายจะเป็นทางเรนส์เป็นผู้ชนะของแมตช์นี้ พร้อมกับทางเทคเกอร์ที่ส่งสัญญาณราวกับจะรีไทร์จากวงการไปอย่างถาวร ไม่ว่าจะเป็นการถอดเสื้อคลุมและถุงมือไว้บนเวทีพร้อมชูมือบอกลาแฟนๆ ที่อยู่ในสนามวันนั้น                 แต่ทว่าตำนานของอันเดอร์เทคเกอร์ยังไม่จบลง เมื่อเขาตัดสินใจขึ้นปล้ำอีกครั้งในปีต่อมาเพื่อเจอกับจอห์น ซีน่าตำนานอีกคนของวงการและจบลงที่ฝ่ายแรกเอาชนะไปอย่างง่ายดายเพียงสามนาทีเท่านั้น ก่อนที่ต่อมาทางเทคเกอร์จะได้ขึ้นปล้ำอีกครั้งในรายการเดอะเกรทเทตส์ รอยัลรัมเบิ้ลพร้อมเอาชนะรูเซฟไปได้ในกติกาโลงศพอีกด้วย หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้ขึ้นปล้ำอีกครั้งกับกลุ่มดิเอกซ์และโกลเบิร์กแต่กลับจบแมตช์ได้อย่างไม่สมศักดิ์ศรีจนเขาเริ่มต้องการจะกอบกู้ชื่อเสียงอย่างจริงจัง                 ด้วยเหตุนี้เองทำให้ทางอันเดอร์เทคเกอร์กับโรมัน เรนส์ได้กลับมาจับคู่กันเพื่อปล้ำแทคทีมเจอกับดรูว์ แมคอินไตย์และเชน แมคแมน ก่อนที่สองพี่ใหญ่ต่างยุคจะสามารถเอาชนะไปได้พร้อมกับลบคำครหาว่าตำนานของผีดิบคนนี้ได้ตายลงไปแล้วอีกด้วย โดยปัจจุบันทางเทคเกอร์ก็ได้บอกลาแฟนๆ อีกครั้งว่าอาชีพของเขาน่าจะจบลงไปแล้วอีกด้วย ฝากกดติดตาม ข่าวกีฬาวันนี้ข่าวสารกีฬาที่น่าสนใจ 3 สนามมวยปล้ำ ของค่ายยักษ์ใหญ่ที่เสี่ยงต่อไวรัสโควิด-19

Continue Reading
ดัสติน โรดส์

เซเว่นกับบทบาทที่หายไปของ ดัสติน โรดส์ นักมวยปล้ำ สมาคมเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่ง

                แม้ว่าชายที่ชื่อว่า ดัสติน โรดส์ จะมีฝีมือมากมายในวงการมวยปล้ำและเคยได้รับบทบาทเป็นโกลดัสมาเป็นเวลานานจนสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่ทว่าในช่วงเวลาหนึ่งที่เขาอยู่ในสมาคมเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งนั้น โรดส์เคยได้รับทบาทเป็นเซเว่น นักมวยปล้ำลึกลับที่มักจะไปยืนอยู่ใกล้หน้าต่างของเด็กจนทำให้ทางสมาคมเริ่มมองว่า เขาอาจจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโจรลักพาตัวเด็กจนต้องยุติบทบาทไปในที่สุด ดัสติน โรดส์ ที่เคยได้รับทบาทเป็นเซเว่น นักมวยปล้ำลึกลับ                 ช่วงหน้าที่ดัสติน โรดส์จะรับบทเป็นเซเว่นนั้น เขาเคยได้รับบทบาทตัวละครที่สุดโต่งอย่างโกลดัส นักมวยปล้ำเพศที่สามที่ชอบสีทอง โดยเขามักจะต้องเพนท์หน้าตาให้ดูประหลาดมากขึ้นหรือแต่งตัวแปลกๆ เพื่อให้คนดูสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวเลียนแบบเซเบิ้ลนักมวยปล้ำสาว หรือจะแต่งตัวเป็นพ่อของตัวเองอย่างดัสตี้ โรดส์จนทำให้เขาถูกมองเป็นเพียงตัวตลกก่อนจะลาออกจากสมาคมในปี 1999                 จนกระทั่งในช่วงปลายปี 1999 นั้น ทางดัสตินก็ย้ายมาสู่สมาคมเก่าของตัวเองพร้อมกับเปิดตัวในบทบาทเซเว่น ชายหน้าขาวลึกลับที่ปรากฎตัวนอกหน้าต่างของห้องนอนเด็กอยู่เสมอ แต่บทบาทนี้ลกับได้ใช้เปิดตัวเพียงครั้งเดียว ก่อนที่โรดส์จะได้ออกมาพูดเปิดใจว่า บทบาทนี้มันการ์ตูนเกินไปไม่ต่างกับโกลดัสเลย ซึ่งต่อมาเขาจะกลับไปใช้บทบาทของอเมริกันไนท์มาร์จนกระทั่งวันที่สมาคมปิดตัวลง                 หลังจากที่ช่วงเวลาของดัสติน โรดส์กับเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งจบลงไปแล้วนั้น เขาก็กลับมารับบทบาทของโกลดัสอีกครั้ง จนกระทั่งในปี 2019 ที่เขาได้ตัดสินใจเข้าร่วมสมาคมอย่างออลอีลีทเรสลิ่งเพื่อร่วมงานกับน้องชายอย่างโคดี้และยังคงขึ้นสังเวียนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะอายุ 51 ปีแล้วก็ตาม สามารถกดติดตาม การแข่งขันกีฬา ข่าวสารกีฬาอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ฮัลค์ โฮแกน อดีตพระเอกตลอดกาลของวงการมวยปล้ำ

Continue Reading
บร็อค เลสเนอร์

บร็อค เลสเนอร์ นักมวยปล้ำที่เอาชนะเคน เวลาสเกวซ อดีตนักชกยูเอฟซี ไปได้อย่างรวดเร็ว

                บร็อค เลสเนอร์ ย้อนกลับไปในปี 2019 นั้น เป็นช่วงเวลาที่บร็อค เลสเนอร์ยังคงถือแชมป์โลกของสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเอร์เทนเมนต์อยู่ จนกระทั่งทางรายการทำการเซอร์ไพรส์คนดูด้วยการนำตัวของเคน เวลาสเกวซอดีตนักชกยูเอฟซีที่เคยต่อยหน้าของบร็อคจนมีแผนเป็นอยู่ในปัจจุบันกลับมาเพื่อให้ทั้งสองมีโอกาสสู้กันอีกครั้ง แต่เป็นในฐานะนักมวยปล้ำแทน ซึ่งในแมตช์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศซาอุดิอาระเบียนั้นก็เป็นทางแชมป์โลกที่ป้องกันไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แมตช์ของ บร็อค เลสเนอร์ กับเวลา เคน เวลาสเกวซ นั้นได้สู้กันเพียง 88 วินาที                 ก่อนหน้าที่ทางบร็อค เลสเนอร์จะได้สู้กับเคน เวลาสเกวซในการชิงแชมป์โลกมวยปล้ำนั้น ทั้งสองเคยพบกันมาแล้วหนึ่งครั้งในรายการยูเอฟซีครั้งที่ 121 ก่อนที่จะเป็นทางบร็อคเจ้าของแชมป์รุ่นเฮฟวี่เวทของสมาคมนั้น จะโดนเวลาสเกวซต่อยจนกรรมการสั่งยุติการชกและกระชากแชมป์ไปจากเขาในที่สุด ก่อนบร็อคจะมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้และต้องักรักษาตัวพร้อมกับประกาศรีไทร์จากวงการนักสู้ไปชั่วคราวในเวลาต่อมา                 หลังจากนั้นอีก 9 ปีด้วยกันที่ทางบร็อค เลสเนอร์จะมีอาการเจอกับอดีตคนที่ทำให้เขาต้องเสียแชมป์โลกไปในยูเอฟซี โดยทางเคนถือเป็นตัวแทนของเรย์ มิสเตริโอที่กำลังบาดเจ็บอยู่ในขณะนั้น ก่อนที่ทั้งสองจะได้เจอกันในรายการคราวน์จิวที่ทางบร็อคจะเอาคืนนักสู้ชาวเม็กซิกันอย่างสาสมด้วยท่าคิมูระล็อคหรือการหักแขนจนยอมแพ้ไปภายในเวลาเพียง 88 วินาทีเท่านั้น ก่อนที่ผู้แพ้จะต้องหายไปเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่านั่นเอง                 ส่วนสาเหตุที่แมตช์ของเลสเนอร์กับเวลาสเกวซนั้นได้สู้กันเพียง 88 วินาทีนั้น ทางอาร์น แอนเดอร์สันก็ออกมาอธิบายอย่างง่ายๆ ว่ามันเป็นแมตช์ของนักมวยปล้ำรุ่นเฮฟวี่เวทนั่นเอง เพราะฉะนั้นไม่แปลกเลยทีพวกเขาจะสู้กันภายในเวลาครึ่งนาทีเท่านั้น หรือไม่เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะสู้กันอย่างยาวนานเพื่อที่จะมีใครสักคนต้องเจ็บหนักในที่สุดก็เป็นได้ สามารถกดติดตาม ข่าวกีฬาวันนี้ บทความที่น่าสนใจ บร็อค เลสเนอร์ […]

Continue Reading
คาร์เรียน ครอส-

คาร์เรียน ครอส ที่ใกล้กลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้ง หลังจากเขามีปัญหาบาดเจ็บที่หัวไหล่

                คาร์เรียน ครอส เป็นนักมวยปล้ำที่โชคร้ายอีกคนของวงการ สำหรับคาร์เรียน ครอสที่ต้องพักการปล้ำไปอย่างไม่มีกำหนดทันทีที่เขาสามารถคว้าแชมป์เอนเอกซ์ทีมาครองได้สำเร็จในรายการเทคโอเวอร์ครั้งที่ 30 เนื่องจากเขามีปัญหาที่หัวไหล่ในแมตช์ที่สู้กับเจ้าของตำแหน่งคนก่อนอย่างคีธ ลีนั่นเอง โดยไม่นานมานี้ทางแฟนสาวของเขาอย่างสกาเล็ตต์ บอร์โดซ์ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงสภายร่างกายของอดีตแชมป์คนนี้ว่าดีขึ้นมากแล้วอีกด้วย คาร์เรียน ครอส เขาพร้อมกับมาอีกครั้ง เผยถึงสภายร่างกาย ดีขึ้นมาก                 สำหรับคาร์เรียน ครอสหรือคิลเลอร์ ครอสชื่อเก่าที่โด่งดังในสมาคมอื่นๆ มาช่วงหลายปีก่อน ได้เปิดตัวกับสมาคมเอนเอกซ์ทีค่ายที่สามของเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ในปี 2020 โดยเจ้าตัวมาพร้อมกับสกาเกตต์ บอร์โดซ์แฟนสาวของเขาและเริ่มมีเรื่องราวกับโทมาโซ่ แชมป้าทันที ก่อนที่ต่อมาเขาจะก้าวไปเป็นผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งของแชมป์เอนเอกซ์ทีพร้อมกับตัดกำลังคีธ ลีด้วยการแอบใช้ปืนไฟซ่อนไว้ในสัญญาที่เจ้าของแชมป์นั่นเอง                 ส่วนในแมตช์ที่คาร์เรียน ครอสมีโอกาสจะไปถึงจุดสูงสุดในอาชีพของเขานั้น ช่วงท้ายแมตช์เขาก็เกิดอาการบาดเจ็บขึ้นทันที หลังจากที่โดนนักมวยปล้ำที่น้ำหนักกว่า 340 ปอนด์เล่นงานจนไหล่หลุดเลยทีเดียว แม้ว่าในแมตช์นั้นเขาจะสามารถปล้ำต่อจนจบและสามารถยกลีใส่ท่าดูมส์เดย์ไซโตะซูเพลกซ์จากเชือกเส้นที่สองจนกดนับสาม พร้อมคว้าแชมป์เอนเอกซ์ทีได้สำเร็จก็ตาม                 หลังจากที่คาร์เรียน ครอสครองแชมป์ได้เพียงสี่วันเท่านั้น ทางทีมแพทย์ก็ตัดสินใจให้คนหยุดปล้ำชั่วคราวทันทีจนกระทั่งเจ้าตัวต้องสละแชมป์กลางรายการ ก่อนที่จะเป็นทางวิลเลี่ยม รีกัลป์ที่จัดแมตช์หาแชมป์ขึ้นมาใหม่และจบลงด้วยการมีฟิน บาลอร์อดีตแชมป์สองสมัยของค่าย ที่กลายเป็นแชมป์คนใหม่และยังถือเข็มขัดอยู่จนถึงปัจจุบัน ฝากกดติดตาม ข่าวกีฬาวันนี้ ข่าวสารกีฬาที่น่าสนใจ อดีตนักมวยปล้ำชื่อดังอย่าง โบรดี้ ลี กับการเป็นผู้กอบกู้กลุ่มดาร์กออร์เดอร์

Continue Reading
ร็อบแวนแดม

ร็อบแวนแดม อดีตแชมป์โลกทั้งสามสถาบัน ที่ช่วยฝึกฮีโร่ในวัยเด็กของเขา

                ร็อบแวนแดม หากได้ยินเรื่องของคนที่มีโอกาสได้เจอขวัญใจในวัยเด็กคงเป็นเรื่องที่ชื่นใจไม่ใช่น้อย แต่เรื่องราวของร็อบแวนแดมนั้นกลับน่าภูมิใจยิ่งกว่า หลังจากที่อดีตแชมป์โลกทั้งสามสถาบันได้มีโอกาสช่วยฮีโร่ในสมัยเด็กของเขาอย่างอัลติเมท วอร์ริเออร์ที่ต้องการให้เขาเป็นผู้ช่วยฝึกซ้อมการปล้ำให้เขาเพื่อขึ้นสังเวียนครั้งสุดท้ายและเกษียณตัวเองต่อหน้าครอบครัวอีกด้วย โดยเจ้าของท่ากบห้าดาวได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวนี้ในบทสัมภาษณ์แห่งหนึ่ง ร็อบแวนแดม ได้มีโอกาสช่วยฮีโร่ในสมัยเด็กของเขาอย่างอัลติเมท                 ในช่วงปี 2008 นั้นทางนักมวยปล้ำอย่างร็อบแวนแดมเพิ่งจะประกาศขอพักการปล้ำชั่วคราวเพราะต้องการรักษาสภาพร่างกายของตัวเอง รวมถึงการขึ้นปล้ำมาเป็นเวลานานโดยไม่พักทำให้เขาเริ่มหมดไฟในวงการ ซึ่งระหว่างนั้นเองทางอัลติเมท วอร์ริเออร์ที่ร้างเวทีไปเป็นเวลานานนับตั้งแต่ขึ้นปล้ำครั้งสุดท้ายในปี 1998 ในสมาคมเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งกับฮอลลีวูด โฮแกนและแพ้ไปในรายการฮัลโลวีนฮาวอคก็ต้องการกลับขึ้นมาปล้ำอีกครั้ง                 จากคำพูดของร็อบแวนแดมนั้น ทางวอร์ริเออร์ก็ได้เอ่ยปากชวนเขามาร่วมฝึกกันในช่วงปี 2008 โดยเป็นทางตำนานอดีตแชมป์โลกและแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลได้ขอให้เขามาช่วยฝึกมวยปล้ำเพื่อเตรียมตัวกับแมตช์สุดท้ายที่ต้องเจอกับโอลันโด้ จอร์แดนเพื่อชิงแชมป์ของค่ายนูเรสลิ่งเอฟโวลูชั่น โดยเขายังถูกฮีโร่ของตัวเองชื่นชมที่ยังสามารถขึ้นปล้ำได้อย่างดีทั้งๆ ที่เป็นผู้ใช้การบำบัดรักษาตัวเองด้วยสมุนไพรเขียวนั่นเอง                 คงจะถือว่าเป็นเรื่องน่าภูมิใจที่ทางร็อบแวนแดมมีโอกาสได้ขึ้นปล้ำกับชายที่เขาเคยชื่นชมสมัยยังเด็กพร้อมฝึกสอนท่าพื้นฐานให้กับเขาทั้งหมด อีกทั้งยังได้รับคำยกย่องจากชายที่เป็นนักมวยปล้ำระดับสูงในต้นยุค 90 จนเป็นช่วงเวลาที่แชมป์โลกรุ่นน้องคงไม่มีทางลืมอย่างแน่นอน ฝากกดติดตามข่าวกีฬาวันนี้ข่าวสารกีฬาที่น่าสนใจนักมวยปล้ำ ร็อบแวนแดม กับเจฟฟ์ ฮาร์ดี้คู่ปรับในยุค 2001แชมป์ยูโรเปี้ยนอีกครั้ง

Continue Reading
ร็อบแวนแดม

นักมวยปล้ำ ร็อบแวนแดม กับเจฟฟ์ ฮาร์ดี้คู่ปรับในยุค 2001แชมป์ยูโรเปี้ยนอีกครั้ง

                ร็อบแวนแดม ในปี 2001 ที่นักมวยปล้ำส่วนใหญ่ของค่ายอีซีดับเบิ้ลยูได้ย้ายเข้ามาสู่เวิลด์เรสลิ่งเฟดเดอเรชั่นนั้น ทางร็อบแวนแดมก็กลายเป็นนักมวยปล้ำคนหนึ่งที่ต้องย้ายมาค่ายอันดับหนึ่งของโลกอีกด้วย ซึ่งจากการปล้ำที่เน้นลีลาผาดโผนของเขานั่นเอง ทำให้ทางค่ายเลือกที่จะจับเขาไปเจอกับนักมวยปล้ำที่มีสไตล์คลายคลึงกันอย่างเจฟฟ์ ฮาร์ดี้จนทำให้เกิดแมตช์ที่สนุกมากมายไม่ว่าจะเป็นการชิงแชมป์ฮาร์ดคอร์และแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลอีกด้วย ร็อบแวนแดม กับเจฟฟ์ ฮาร์ดี้ เพื่อหาแชมป์เพียงคนเดียวในการชิงแชมป์อินเตอร์                 รายการแรกที่ร็อบแวนแดมได้เจอกับเจฟฟ์ ฮาร์ดี้ก็คืออินเวชั่นที่นักมวยปล้ำทั้งสองค่ายต้องมาเจอกัน ซึ่งแมตช์ที่ว่าเป็นการชิงแชมป์ฮาร์ดคอร์ก่อนที่สุดท้ายจะเป็นนักมวยปล้ำจากกลุ่มแอนไลแอนซ์ที่เอาชนะคู่ปรับและคว้าแชมป์มาครองในที่สุด จนกระทั่งต่อมาพวกเขาได้เจอกันอีกครั้งในกติกาที่ฮาร์ดี้ถนัดอย่างการปีนบันได แต่ทว่ากลับเป็นพ่อหนุ่มผมยาวที่ยังเอาชนะไปได้และจบเรื่องราวนี้ไปชั่วคราว                 จนกระทั่งในปี 2002 ที่ทางร็อบแวนแดมกลายเป็นแชมป์อินเตอร์คอนทิเนนทัลผ่านการเอาชนะโกลดัสไปได้ ก่อนที่เจ้าตัวจะต้องแย่งชิงกับเอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ถึงสามเดือนและเจ้าตัวจะกลายเป็นแชมป์สองสมัยในที่สุด ในขณะนั้นเองที่ทางรายการรอว์มีแฟนที่จะรวมแชมป์ให้เหลือเพียงเส้นเดียว โดยทางแวนแดมต้องไปเจอกับเจฟฟ์ ฮาร์ดี้แชมป์ยูโรเปี้ยนอีกครั้งเพื่อหาแชมป์เพียงคนเดียวและจะเป็นทางแชมป์นานาทวีปที่เอาชนะคู่ปรับคนเดิมไปได้                 แม้ว่าเจฟฟ์ ฮาร์ดี้จะผูกปีแพ้ให้กับร็อบแวนแดมในการชิงแชมป์อินเตอร์ก็ตาม แต่ทว่าเมื่อทั้งคู่ได้ข้ามค่ายไปสู่ทีเอนเอในปี 2010 นั้น จะเป็นทางฮาร์ดี้ที่สามารถเอาชนะคู่ปรับได้หลายครั้ง อีกทั้งยังเป็นการสู้กันเพื่อชิงแชมป์โลกของสมาคมอีกด้วย ซึ่งนับแต่นั้นเป็นต้นมาพวกเขาก็ไม่มีโอกาสเจอกันอีกและแยกย้ายไปตามทางของตัวเองอีกด้วย ฝากกดติดตามข่าวกีฬาวันนี้ข่าวสารกีฬาที่น่าสนใจอาลีนักมวยปล้ำ จอมเหินหาว ที่เป็นหัวหน้าเรทริบิวชั่น กลุ่มชายชุดดำอย่างไม่คาดคิด

Continue Reading